"Follow Your Dream"

.

นี่คือคำขวัญของ SandBox สถานที่รวมตัวของคนมีความฝัน

ครั้งแรกที่ผมเห็นโลโก้เด็กหญิงที่นั่งบนชิงช้า และสโลแกนนี้

มันทำให้ผมนึกถึงโลโก้ ของสตูดิโอระดับโลกอย่าง DreamWorks

ที่ใช้รูปเด็กผู้ชายนั่งตกปลาอยู่บนพระจันทร์เสี้ยว

ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนความรุ่งเรืองของ hollywood

.

แต่ในซีรีส์เรื่อง Start Up สัญลักษณ์นี้ ได้กลายมาเป็นตัวแทน

ของหนุ่มสาวผู้มีความฝันอยากเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

และ SandBox ก็เปรียบเสมือนกับ ซิลิคอนวัลเลย์แห่งเอเชียของพวกเขา

.

วิธีการเล่าเรื่องของ Start Up ถือว่าทำได้อย่างน่าสนใจ และคลาสสิคมาก

ซีรีส์เปิดเรื่องราวมาด้วยภาพเหตุการณ์ชีวิตของ ซอดัลมี และซออินแจ

เด็กสาวสองคนที่เป็นพี่น้องกัน พ่อของพวกเธอ ซอชองมยอง ตัดสินใจลาออกจากงาน

เขามีความฝันอยากเป็นผู้ประกอบการ อยากยกฐานะของครอบครัวให้ดีขึ้น

แต่ภรรยาของเขา ชาอาฮยอน มองว่าเขาล้มเหลวในการเป็นผู้นำครอบครัว

ทั้งสองคนจึงตัดสินใจหย่าขาดจากกัน เหตุการณ์นี้ส่งผลอย่างรุนแรงต่อ ดัลมี

เธอไม่เคยคิดที่จะแยกจากพี่สาว เพราะพี่สาว คือโลกทั้งใบของเธอ

แต่ในที่สุดแล้ว เส้นทางของพี่น้องก็ต้องแยกจากกัน

ซอดัลมี เลือกจะอยู่กับพ่อ และคุณย่าของเธอ "วอนด็อก"

แต่อินแจ เลือกจะไปกับแม่ เธอไม่อยากอยู่กับพ่อที่ล้มเหลว และยากจน

.

15 ปี ผ่านไป สองพี่น้องที่แยกจากกันได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง

"ซออินแจ" กลายเป็น "วอนอินแจ"

นักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งของวงการ

แต่อีกคน เป็นเพียงพนักงานสัญญาจ้าง

ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความฝันที่แท้จริงของเธอคืออะไร

ตลอดชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบากของ ดัลมี

เธอมีเพื่อนเพียงสิ่งเดียวที่คอยปลอมประโลมจิตใจ

นั่นคือจดหมายจากเด็กหนุ่มปริศนาที่ใช้ชื่อว่า "นัมโดซาน"

เด็กหนุ่ม กับเด็กสาว เขียนจดหมายจดหมายโต้ตอบกันไปมา

จนกลายมาเป็น "เพื่อนสนิท" ที่ไม่เคยเจอหน้ากันเลยนับตั้งแต่รู้จักกัน

.

"คำโกหกสีขาว" น่าจะเป็นคำเรียกที่เหมาะสมที่สุด ที่จะใช้ได้

ย่าของดัลมี ไม่อยากให้เธอรู้สึกว้าเหว่จนเกินไป จึงเลือกจะไหว้วานไห้ "ฮันจีพยอง"

เด็กหนุ่มที่เธอช่วยไว้ปลอมตัวเป็นเพื่อนปลอบใจทางจดหมายให้กับหลานสาวของเธอ

ถึงการทำแบบนี้จะไม่ใช่เรื่องดี แต่ก็ต้องบอกว่าย่าของดัลมี คือ ตัวละครที่อบอุ่นที่สุดในเรื่องนี้เลย

เธอไม่มีโอกาสได้เห็นลูกชายของตัวเองประสบความสำเร็จ

การดูแล ดัลมี ให้ดีที่สุดจึงเป็นเพียงเรื่องเดียวที่เธอจะทำให้กับลูกชายได้

ทุกครั้ง ที่เธอมองเห็นรอยยิ้มของ ดัลมี จะมีภาพของลูกชายซ้อนทับมาด้วยเสมอ

ภาพของ คุณย่าวอนด็อก ในซีรีส์เรื่องนี้ จึงเต็มไปด้วยความอบอุ่น และจริงใจ

ทำเอาเด็กหนุ่มอย่าง จีพยอง รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเธอมาตลอด นับตั้งแต่วันที่เขาจากมา

.

ความสนุก และความน่าติดตามของซีรีส์เรื่องนี้ คือ

ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะดูจะบังเอิญ แต่มันก็ไม่ใช่ความบังเอิญแบบจับยัดเข้ามา

ทุกความบังเอิญล้วนมีเหตุมีผลในตัวของมันเอง

และสอดแทรกเกร็ดความรู้ในการทำธุรกิจไว้ได้อย่างน่าสนใจ

.

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของซีรีส์เรื่อง Start Up ที่ไม่พูดถึงไม่ได้

คือ 3 ผู้ก่อตั้งซัมซานเทค อย่าง นัมโดซาน คิมยงซาน และอีซอลซาน

ผมขอชื่นชมทีมแคสติ้ง ที่เลือกนักแสดงมาแท็คทีมกันได้แบบเข้าคู่รู้ใจกันจริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นความมึน ความเนิร์ด และการรับส่งมุกกัน

ทำให้ตวละครทั้งสามกลายเป็นสีสันของเรื่องนี้เลย

ซึ่งถ้าว่ากันตามจริง คนที่เริ่มทำธุรกิจมักเป็นแบบนี้กันเกือบทุกคน

อ่อนต่อโลก มีไอเดียเต็มหัว แต่ไม่รู้ว่าต้องหาเงินจากไอเดียนั้นยังไง

นี่คือจุดอ่อนของซัมซานเทคที่ โดซาน ได้จึพยองเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างพอดี

ถ้าจีพยอง อยากจะรักษาความลับของจดหมายหลายสิบฉบับที่โกหก ดัลมี เอาไว้

เขาก็ต้องทำให้ โดซาน กลายเป็น​นัมโดซานในจินตนาการของ ดัลมี อย่างสมบูรณ์แบบให้ได้

แต่ในระหว่างท่ีเขาช่วย โดซาน ให้ได้ใกล้ชิดกับ ดัลมี

ผู้ชมก็ยิ่งสับสน ว่าควรเชียร์ใครให้เป็นพระเอกในเรื่องนี้ดี

ระว่าง นัมโดซานตัวจริง ที่ตกหลุมรัก ซอดัลมี

หรือ ฮันจีพยอง คนเขียนจดหมายตัวจริง ที่คอยปลอบใจดัลมีเสมอมา

.

ใช่แล้วครับ ซีรีส์ทำให้เราต้องลุ้นทั้งเรื่องความรัก และธุรกิจไปพร้อมๆกัน

เล่ามาถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะนึกถึงซีรีส์แห่งปีอย่าง Itaewon Class

ที่เอาความรัก มาผูกกับการทำธุรกิจไว้ได้อย่างน่าสนใจ

แต่จุดหนึ่งที่ Itaewon Class พลาดไป คือการ Skip ช่วงสร้างตัวของพัคแซรอย กับ โซอีซอ

รู้ตัวอีกที บริษัทของ พัคแซรอย ก็โตขึ้นมาจนกระจายสาขาไปแล้วหลายประเทศ

.

แต่ในซีรีส์เรื่อง Start Up เราน่าจะได้เห็นการแข่งขันเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ

และการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เพื่อให้บริษัทที่เริ่มสร้าง ประสบความสำเร็จ

ยกตัวอย่าง การแข่งขันรอบแรกใน EP4 ที่มีคีย์เวิร์ดให้ผู้เข้าแข่งขันตอบ

และการตัดสินใจของ โดซาน ที่ต้องเลือกระหว่าง ดัลมี กับ อินแจ

แค่สองเหตุการณ์นี้ ก็สอนเราได้อย่างดีในเรื่องวิสัยทัศน์ของผู้นำแล้ว

ว่าคนที่จะเป็น CEO ได้ ต้องมองภาพรวมออก แต่ก็ต้องอ่อนน้อม

และต้องมองว่าตำแหน่งประธาน ไม่ใช่การเป็นแค่ "เจ้านาย"

แต่มันคือหน้าที่หนึ่ง ที่จะทำให้ทั้งทีมประสบความสำเร็จไปด้วยกัน

.

เอาล่ะ หลายคนน่าจะพอมองออกแล้วนะครับ

ว่าตอนนี้ ซีรีส์เรื่อง Start Up มีประเด็นน่าสนใจอยู่สามประเด็นด้วยกัน

1.อนาคตของซัมซานเทค ภายใต้การนำของ ดัลมี ในฐานะ CEO จะประสบความสำเร็จหรือไม่?

2.คำโกหก และความสัมพันธ์ระหว่าง นัมโดซาน ซอดัลมี ฮันจีพยอง จะเป็นอย่างไร?

และ 3.การแข่งขันกันระหว่างสองพี่น้อง ที่มีศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน ใครจะเป็นฝ่ายชนะ?

.

แค่สามประเด็นนี้ ก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ซีรีส์เรื่อง Start Up

กลายเป็นซีรีส์ที่น่าติดตามไปจนถึงตอนจบของเรื่อง

======================

รับชม “สตาร์ทอัพ” แบบถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Netflix

https://www.netflix.com/title/81290293?s=i&trkid=15233083