ฮยอนบิน (Hyun Bin) ถือว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงชาวเกาหลีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเวลานี้ เขามีผลงานมากมายมาตลอดหลายปีและประสบความสำเร็จในหลายระดับ และเช่นเดียวกับนักแสดงคนอื่นๆ เรื่องราวชีวิตของเขาก็มีทั้งขึ้นและลงมาตลอดอาชีพการทำงานเช่นกัน

เราจะมามองย้อนกลับไปในอาชีพการทำงานของฮยอนบินและช่วงเวลาที่เขาผ่านอุปสรรคและดูว่าเขาเอาชนะมันมาได้อย่างไร

หลังจากฮยอนบินประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากผลงานเรื่อง “Secret Garden” ในปี 2010 เขาก็เป็นที่โด่งดังไปทั่ว ซีรีส์ประสบความสำเร็จทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ รวมถึงยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ดีที่สุดและประสบความสำเร็จตลอดกาลของเกาหลีอีกด้วย

ไม่กี่เดือนหลังจากความสำเร็จของเขาในซีรีส์เรื่องดังกล่าว เขาก็ต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกรมทหารตามกำหนด

หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2013 ฮยอนบินก็ใช้เวลาส่วนใหญ่โฟกัสไปที่การถ่ายโฆษณาหลากหลายชิ้นและจัดแฟนมีทติ้งทั่วเอเชีย

ฮยอนบินเลือกกลับมารับผลงานการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง “The Fetal Encounter” ภาพยนตร์ย้อนยุคเรื่องแรกของเขา ภาพยนตร์เข้าฉายในปี 2014 ซึ่งฮยอนบินถูกวิจารณ์ถึงการแสดงและการไม่เข้าถึงอารมณ์ในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวที่ได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบเป็นส่วนใหญ่

หลังจากนั้นฮยอนบินก็รับแสดงเป็นสองตัวละครเป็นครั้งแรกในเรื่อง “Hyde, Jekyll, Me” ซีรีส์โรแมนติกในปี 2015 ที่เขารับบทเป็นชายที่แบ่งลักษณะนิสัยเป็น 2 แบบจากโรคหลายบุคลิก

“Kill Me, Heal Me” แข่งขันกับซีรีส์เรื่อง “Kill Me, Heal Me” และพ่ายแพ้ในเรื่องเรทติ้ง ผู้เขียนบทของ “Hyde, Jekyll, Me” ยังกล่าวหาผู้เขียนบทของเรื่อง “Kill Me, Heal Me” ด้วยว่าลอกเลียนแบบไอเดีย (ซีรีส์ทั้งสองเรื่องมีไอเดียเหมือนกัน) แต่ก็ถูกโจมตีกลับอย่างรุนแรงและซีรีส์ก็แทบไม่เป็นที่สนใจของผู้ชมเลยตลอดการออกอากาศ ซึ่งซีรีส์เรื่อง “Hyde, Jekyll, Me” ก็ถูกถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานการแสดงที่แย่ที่สุดของฮยอนบินอีกด้วย

2017 เป็นปีที่เขาเริ่มกอบกู้อาชีพของเขากลับมาอีกครั้ง เขากลับมารับผลงานภาพยนตร์เรื่อง “Confidential Assignment” ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ไปในทางที่ดีและหลังจากนั้นเขาก็มีผลงานภาพยนตร์ตามมาด้วยเรื่อง “The Swindlers” ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องรายได้เป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยรักษาชื่อเสียงของฮยอนบินในฐานะหนึ่งในนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเกาหลีผู้ครองจอภาพยนตร์เอาไว้ได้

ในปี 2018 ฮยอนบินมีผลงานการแสดงแนวอาชญากรรมระทึกขวัญเรื่อง “The Negotiation” โดยรับบทตัวร้ายเป็นครั้งแรกประกบคู่กับซนเยจิน (Son Yejin) ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รายได้ไปเป็นจำนวนมากกว่า 474 ล้านบาทด้วยทุนการสร้าง 284 ล้านบาท ภาพยนตร์ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากแต่ก็ได้รับความสนใจจากสื่อกับข่าวลือเรื่องการเดทของเขาและซนเยจิน

ในปี 2018 แฟนๆ ต่างปลื้มปิติเมื่อมีข่าวยืนยันว่าฮยอนบินจะกลับมารับผลงานการแสดงซีรีส์อีกครั้งด้วยซีรีส์แนวตื่นเต้นแฟนตาซีเรื่อง “Memories of the Alhambra” ร่วมกับพัคชินฮเย (Park Shin Hye)

โดยในปัจจุบันซีรีส์เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่มีเรทติ้งสูงเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ของซีรีส์เกาหลี ฮยอนบินได้รับคำชมจากฝีมือการแสดงของเขาในซีรีส์เรื่องนี้มากมาย อย่างไรก็ตาม “Memories of the Alhambra” ทิ้งความทรงจำที่ไม่ดีนักไว้ให้กับแฟนๆ จากตอนจบที่เป็นกระแสขัดแย้งที่ทำให้เกิดคำวิจารณ์ต่อผู้เขียนบทของเรื่อง

ฮยอนบินประสบความสำเร็จกับ “Memories of the Alhambra” และซีรีส์ก็ทำได้ดีในเรื่องเรทติ้งแต่นั่นก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เขาสร้างสถิติไว้ในประวัติศาสตร์ซีรีส์เกาหลี เขากลายเป็นนักแสดงนำระดับแถวหน้าของซีรีส์ทางช่อง tvN และเป็นซีรีส์ที่ทำสถิติเรทติ้งสูงสุดเป็นอันดับ 2 

ในปี 2019 เขาร่วมงานกับซนเยจินอีกครั้งในซีรีส์โรแมนติกเรื่อง “Crash  Landing on You”

ซีรีส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ “Crash  Landing on You” จบลงด้วยความนิยมถล่มทลายที่ทำลายสถิติของช่อง tvN และช่องเคเบิ้ลต่างๆ ความนิยมของฮยอนบินพุ่งสูงสุดและมีแฟนๆ เพิ่มขึ้นมากมายพร้อมๆ กับฐานแฟนคลับเดิมที่มีความสุขไปกับผลงานของเขา

ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคในเรื่องงานช่วงปี 2013 แต่ฮยอนบินก็เอาชนะมันมาได้ด้วยการทำงานหนักและความมุ่งมั่น

ล่าสุดเขาเพิ่งยืนยันผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่จะมีการถ่ายทำที่ประเทศจอร์แดน แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 แผนการถ่ายทำจึงต้องหยุดชะงักชั่วคราวในตอนนี้ ซึ่งแฟนๆ ต่างก็อยากเห็นเขาในผลงานใหม่แล้ว