ในจุดนึง อาจจะ 10-20 ปีที่แล้ว โลกแห่งซีรีส์เกาหลีนั้นเป็นที่นิยมไปด้วยนางเอกแสนหวานน่ารัก เรื่องราวของพวกเธอมักจะโคจรอยู่รอบพระเอก และมักจะมีปฏิกิริยากับเรื่องอะไรก็ต่อเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก อันดับต่อมาก็เรื่องราวของตัวละครหญิงที่มักจะซ้ำๆ เดิม จุดประสงค์เดียวของพวกเธอก็คือความแค้นและการสร้างความวุ่นวายเพื่อทำให้พระเอกรู้ตัวและทำให้เขาได้มีโอกาสเข้ามาช่วยนางเอกเอาไว้

ในขณะที่ตัวละครเหล่านี้ก็เป็นอะไรสนุกๆ ที่เราดูได้ เราก็ยังรับรู้ด้วยว่าการวางนิสัยตัวละครผู้หญิงแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย ผู้หญิงเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าแค่ตัวละคร “ร่าเริงแต่ซื่อๆ” ที่คุณมักจะเห็นในซีรีส์ และโชคดีที่เมื่อเวลาผ่านไป โลกแห่งซีรีส์เกาหลีก็มีตัวละครหญิงที่เราชื่นชมได้ทั้งหญิงสาวที่มีการปรับตัวและเข้มแข็ง, หญิงสาวที่ฉลาดและเป็นเลิศในสาขาความรู้ของตัวเอง, หญิงสาวที่ไม่จำกัดตัวเองให้อยู่กับค่านิยมเดิมๆ ของความเป็นผู้หญิง, หญิงสาวที่สนับสนุนหญิงสาวอื่น เนื่องในโอกาสการฉลองวันสตรีสากลและฉลองให้กับหญิงสาวที่ยอดเยี่ยมทุกคน มาดูกันว่าหญิงสาวที่น่าประทับใจในซีรีส์เกาหลีมีเรื่องอะไรกันบ้าง

“Doctors” (2016)

ไม่เพียงแต่ยูฮเยจอง (พัคชินฮเย - Park Shin Hye) จะเป็นมืออาชีพในเรื่องอาชีพของเธอเท่านั้น แต่เธอยังสามารถเตะคนได้อีกด้วย เธอโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้ดีตามอุดมคติ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เธอทำความผิดในช่วงวัยรุ่นของเธอ อย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นและทำอะไรเพื่อตัวเอง เธอจัดการเปลี่ยนความโกรธและความรุนแรงจากวัยเด็กที่ยากลำบากของเธอไปเป็นความเข้มแข็งและความฉลาดภายใน และถึงแม้ทุกอย่างจะเป็นเรื่องแปลกๆ เธอก็ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ประสาทที่ได้รับการนับถือและได้ทำงานที่โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ แต่เธอก็ยังมีความแสบจากวัยรุ่นองเธอและยังสามารถจัดการกับพวกตัวร้ายได้ในเวลาที่จำเป็น

“Witch’s Court” (2017)

เราไม่ค่อยได้เห็นอัยการหญิงนักในโลกซีรีส์เกาหลีนัก และเมื่อไหร่ที่ได้เห็น เธอก็มักจะเป็นอัยการรองจากอัยการชายเสมอ แต่ใน “Witch’s Court” นั้นมีมาอีดัมเป็นอัยการที่ฉลาด, มีเสน่ห์และมาพร้อมสัญชาตญาณนักฆ่า เธอไม่กลัวที่ตะต้องเล่นเกมในศาลและรับมือกับอะไรก็ตามที่พวกเขางัดขึ้นมาสู้กับเธอ เธอสามารถย่อยข้อมูลจากฝั่งตรงข้ามและชนะคดีได้ไม่ใช่เพียงเพราะเธอฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะความมั่นใจในตัวเองมากพอที่จะไม่ยอมให้ศัตรูของเธอเล่นงานเธอได้อีกด้วย เธออาจจะอีโก้สูงและขี้หงุดหงิดนิดหน่อย แต่นั่นก็ยิ่งทำให้บทบาทของเธอดูจริงมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่ทำให้สาวๆ ตกหลุมรักยิ่งกว่ามาอีดัมก็คือนักแสดงในบทนี้ จองรยอวอน (Jung Ryeo Won) ซึ่งในขณะที่เธอรับรางวัล Top Excellence Award ในงาน 2017 KBS Drama Awards เธอก็ใช้พื้นที่ในครั้งนี้พูดต่อต้านการใช้ความรุนแรงทางเพศอีกด้วย

“Weightlifting Fairy Kim Bok Joo” (2017)

เมื่อพูดถึงสิ่งที่พบได้ยากที่สุดในโลกซีรีส์เกาหลี เรื่องนี้ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องที่พบเจอได้ยากที่สุดเลย นั่นก็คือเรื่องราวของนักยกน้ำหนักหญิง กีฬายกน้ำหนักแบบมืออาชีพนั้นเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความประทับใจในเรื่องความเป็นชาย และแน่นนอนว่าเราได้เห็นคิมบ๊กจู (อีซองคยอง - Lee Sung Kyung) เริ่มต่อสู้ดิ้นรนระหว่างความคิดในเรื่องความรักที่เธอมีต่อกีฬายกน้ำหนัก (ที่เน้นความแข็งแรงและรูปร่างตัวที่ใหญ่) กับการยอมรับมาตรฐานความงามพื้นฐานของผู้หญิง ตลอดซีรีส์เรื่องนี้ คิมบ๊กจูตระหนักได้ว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้แบ่งเป็นไอเดียแค่นั้นและเธอสามารถเก่งเรื่องยกน้ำหนักได้ในขณะเดียวกับที่มีความเป็นหญิงสาวที่เปล่งประกาไปด้วยได้ และหัวใจทั้งหมดทั้งมวลก็คือเรื่องแนวความคิดเกี่ยวกับความเป็นชายและความเป็นหญิง เธอยอมรับว่าตัวตนของเธอคือใครก็คือเรื่องที่เพียงพอแล้วและเธอไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เป็นที่รัก การได้แฟนหนุ่มสุดน่ารักมาเป็นแค่เรื่องที่ทำให้เรื่องที่ดีอยู่แล้วดียิ่งขึ้นในการเดินทางค้นหาตัวเอง, ค้นหาการยอมรับและค้นหาความรักในครั้งนี้

“Strong Woman Do Bong Soon” (2017)

เราจะลืมโดบงซุน (พัคโบยอง - Park Bo Young) ไปได้อย่างไรเมื่อพูดถึงผู้หญิงกับความแข็งแรง? และความแข็งแรงในที่นี้ของเธอก็คือความแข็งแรงเหนือมนุษย์เลยทีเดียว โดบงซุนสามารถยกรถบัสได้โดยเหงื่อไม่ไหลซักหยด แต่ที่น่าตลกก็คือพลังเหนือมนุษย์ของเธออยู่ในรูปร่างขนาดตัวเล็กกะทัดรัดที่สามารถเอาตัวรอดไปได้เมื่อทำท่าปากยื่นและกะพริบตาปริบๆ คนน่ารักคนนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเลย และความจริงแล้วเธอก็จะเป็นคนอุ้มเจ้าชายหนีออกไปจากอันตรายเอง!

“Fight My Way” (2017)

ชเวเอรา (คิมจีวอน - Kim Ji Won) ไม่เหมือนกับหญิงสาวคนอื่นก่อนหน้านี้ที่มีความโดดเด่นในอาชีพหรือมีความสามารถที่เป็น “เอกลักษณ์” เธอล้มเหลวในเกือบทุกด้าน ปัจจุบันเธอทำงานในห้างสรรพสินค้า เธอต่อสู้เพื่อความฝันในการเป็นผู้ประกาศข่าวของเธอ ถึงแม้ทุกอย่างจะต่อต้านชเวเอรา แต่เธอก็ทุ่มเทผลักดันตัวเองด้วยความอดทนและความเหนียวแน่น เธอไม่ยอมให้สภาพแวดล้อมภายนอกมาขัดขวางการทำความฝันให้สำเร็จของเธอ และเธอยังเป็นคนสดใสและเป็นตัวละครที่มีหลายมิติ เธอแสบซ่าแต่ก็ยังน่ารัก เธอสนใจแต่ความชอบของเธอแต่เธอก็ยังยอดเยี่ยม และถ้าหากใครที่คิดจะมายุ่งวุ่นวายกับเธอ เธอก็สามารถจัดการคนเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง และนั่นคือเหตุผลที่ถึงเธอจะดูเหมือนคนระดับกลางๆ ทั่วไป เธอก็อยู่ในอีกระดับนึง และความสามารถในการปรับตัวของเธอก็เป็นสิ่งที่เราทุกคนได้รับแรงบันดาลใจได้ด้วย

“Mother” (2018)

เนื่องจากเรากำลังพูดถึงหญิงสาวที่น่าประทับใจ แน่นอนว่าเราจะไม่พูดถึงการแม่ไม่ได้เลย การอุ้มท้องและการให้กำเนิดก็น่าประทับใจมากพอแล้ว แต่การเลี้ยงดูและบ่มเพาะลูกด้วยความรักนั้นต้องใช้ความเข้มแข็งและความอดทนอีกมาก

ในเรื่อง “Mother” ที่รีเมคมาจากซีรีส์ของญี่ปุ่น เรื่องราวความเป็นแม่นั้นถูกถ่ายทอดออกมานอกเหนือจากเรื่องความสัมพันธ์ทางสายเลือด ซึ่งเนื้อเรื่องหลักเริ่มด้วยการโฟกัสที่คุณครู (อีโบยอง - Lee Bo Young) ได้ช่วยชีวิตของเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายที่บ้านและภายหลังได้กลายมาเป็นแม่ของเธอ เรื่องราวทั้งหมดของซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายทอดเกี่ยวกับแม่ลูกหลายคู่ที่แตกต่างกันไป ทั้งที่เป็นแม่ลูกกันทางสายเลือดและทั้งที่ไม่ใช่ ซีรีส์เรื่องนี้มีศูนย์กลางเป็นเรื่องราวของหญิงสาวและดำเนินเรื่องด้วยเรื่องราวของพวกเธอ และในขณะที่หญิงสาวส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นผู้หญิงประเภทที่เป็นต้นแบบของใครหรือไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น พวกเธอก็มีเรื่องราวที่คุ้มค่าที่จะเล่าให้พวกเราได้ฟัง บางเรื่องก็น่าเจ็บปวดหัวใจ แต่บางเรื่องก็น่าอบอุ่นหัวใจ แต่มันมักจะเป็นหนึ่งในเรื่องการปรับตัว, ความเชื่อมั่นและการเจริญเติบโตเสมอ

“Hotel Del Luna” (2019)

“Hotel Del Luna” บอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ไม่ต้องการผู้ชายมาดูแล จางมันวอล (ไอยู – IU) กลายมาเป็นแบบทุกวันนี้เพราะการทรยศของผู้ชาย แต่ผ่านมาหลายปีนับจากนั้น เธอก็ยอมรับในตัวเองและยอมรับตำแหน่งของเธอที่เป็นอะไรบางอย่างในแผนการที่ยิ่งใหญ่ เธอเป็นเจ้าของโรงแรมผู้แต่งตัวเริศหรูที่ดูแลตัวเองและทรัพย์สินของเธอเป็นอย่างดี แม้กระทั่งตอนที่กูชานซอง (ยอจินกู - Yeo Jin Goo) เข้ามาภายหลัง เธอก็ไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อเขา แต่เธอกลับรักษาความแสบซ่า, การพูดจาเสียดสีและแม้กระทั่งนิสัยความโหดของเธอเอาไว้ ด้วยพลังเหนือธรรมชาติที่มันวอลมี เธอเป็นคนที่ทำอะไรไม่ให้ล้มเหลวและทำในแบบที่ยึดมั่นตามความจริง ความเข้มแข็งของเธออยู่ในความสามารถที่ยอมรับด้านความเปราะบางของเธอในการบอกลาอดีตและยอมปล่อยวาง เพราะเธอเข้าใจดีว่านั่นเป็นหนทางเดียวสำหรับเธอที่จะทำให้อนาคตแตกต่างไป และนั่นคือตอนที่เธอสวยงามที่สุด

“Search: WWW” (2019)

หญิงสาวทรงพลังที่สนับสนุนกันและกันแทนที่จะแก่งแย่งชิงดีกันเองคือสิ่งที่เราเห็นใน  “Search: WWW” ด้วยนักแสดงนำหญิงทั้งสามที่ทำงานในบริษัทไอทีคู่แข่ง 2 บริษัทและในตำแหน่งระดับสูงด้วย มันเป็นเรื่องเข้าใจได้ถ้าจะมีการแทงข้างหลังกันและตั้งใจทำลายกันเกิดขึ้นมากมาย แต่แทนที่จะเป็นแบบนั้น ทีมของแบทามี (อิมซูจอง – Im Soo Jung), ชาฮยอน (อีดาฮี – Lee Da Hee) และซงกาคยอง (จอนฮเยจิน - Jeon Hye Jin) กลับช่วยเหลือและสนับสนุนกันทั้งในเรื่องความสัมพันธ์และเรื่องงาน ซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีตัวละครตามแบบฉบับดั้งเดิม แต่เรามีตัวละครที่เก่งรอบด้าน, มีหลายมิติที่ขับเคลื่อนเรื่องราวของมิตรภาพและความรัก

“Graceful Family” (2019)

อย่าให้ชื่อเรื่องของเรื่องนี้หลอกคุณ ซีรีส์เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่สวยงามเลย แต่มันเป็นแนวที่มีเนื้อเรื่องแบบสุดขั้วและบีบคั้นอารมณ์ โดยศูนย์กลางของซีรีส์ที่น่าติดตามเรื่องนี้ก็คือโมซอกฮี (อิมซูฮยัง - Im Soo Hyang) เธอถูกขับไล่ไปอเมริกาเมื่อ 15 ปีก่อน และเธอผู้เป็นทายาทตระกูลเศรษฐีก็กลับมาที่เกาหลีใต้พร้อมกับไฟแค้นของเธอ เธอตัดสินใจที่จะตามหาคนที่ฆ่าแม่ของเธอเพื่อหนีจากเงื้อมมือของทีมผู้บริหารที่ทรงพลัง เธอกล้าหาญ, ฉลาดและไม่ยอมถอยจากภารกิจของเธอ สิ่งที่ทำให้เธอน่าทึ่งยิ่งกว่าเดิมก็คือลักษณะนิสัยของเธอ ซึ่งอาจจะดูสะเพร่าและทำอะไรเกินไปบ้าง แต่เธอก็รับผิดชอบมันได้อย่างดีและดูยอดเยี่ยมไปด้วย

“Tell Me What You Saw” (2020)

ซีรีส์ที่กำลังออกอากาศทางช่อง OCN เรื่องนี้เป็นเรื่องราวตื่นเต้นระทึกขวัญเกี่ยวกับคน 3 คนที่ตามล่าฆาตกรต่อเนื่อง สามคนนั้นได้แก่ โอฮยอนแจ (จางฮยอก – Jang Hyuk) นักวิเคราะห์อัจฉริยะที่ปลีกตัวจากสังคมอย่างผิดปกติ, ชาซูยอง (ซูยอง – Soo Young จาก Girl’s Generation) ในบทนักสืบฝึกหัดที่มีความสามารถในการจดจำแบบภาพถ่ายและฮวังฮายอง (จินซอยอน - Jin Seo Yeon) หัวหน้าทีมผู้มีเสน่ห์ของทีมนักสืบพิเศษประจำจังหวัด ดังที่เราได้เห็นจากซีรีส์อาชญากรรมระทึกขวัญหลายเรื่อง บทบาทผู้นำเหล่านี้มักจะตกเป็นของผู้ชาย แต่มันสดใหม่มากที่ได้เห็นผู้หญิงฝีมือฉกาจในบทนี้

ความจริงแล้วฉากการพบกันครั้งแรกของฮวังฮายองกับชาซูยองนั้นก็ค่อนข้างเข้มข้น ฮวังฮายองพบว่าชาซูยองมีความสามารถในการจดจำและจำลองสถานที่เกิดเหตุได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฮวังฮยองกลายมาเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาและแนะนำชาซูยอง เธอเชื่อใจชาซูยองตอนที่ไม่มีใครเชื่อ และหญิงสาวทั้งสองคนก็กลายเป็นพลังแข็งแกร่งที่เราต้องนึกถึง เรื่องราวของหญิงสาวสุดแกร่งที่จัดการคนชั่วนั้นพลาดไม่ได้เลย

โบนัส: ซีรีส์จีน “Oh My General” (2017)

“Oh My General” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสาวแสบสุดแกร่งยี่เฉ่า (ซานดร้า หม่า - Sandra Ma) ที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายและเติบโตมาเป็นนักสู้ เมื่อพ่อและพี่ชายของเธอตายในการรุกราน เธอก็เป็นคนดูแลกองทัพยี่เพื่อปกป้องบ้านของเธอ เธอพัฒนาระดับความสามารถของเธอและภายหลังก็ได้รับตำแหน่งระดับสูง ความสามารถและความกล้าหาญของเธอทำให้เธอได้รับความเคารพจากผู้ชายร่วมกองทัพ ซีรีส์เรื่องนี้ท้าทายบทบาททางของแต่ละเพศตามธรรมเนียมนิยมด้วยการที่ยี่เฉ่าเป็นคนที่รักอาวุธและการต่อสู้รวมถึงเธอยังเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าหาการต่อสู้แทนที่จะวิ่งหนีมันอีกด้วย