คำเตือน : เนื้อหามีสปอยล์นิดหน่อย
Itaewon Class เป็นซีรีส์ที่สร้างมาจากเว็ปตูนชื่อเดียวกัน ออกอากาศตอนใหม่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ทาง Netflix เล่าเรื่องราวของ พัคแซรอย ชายหนุ่มที่มีความขัดแย้งกับ จางกา บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่และเจ้าของร้านอาหารสาขามากมายในเกาหลี ในขณะที่พัคแซรอยนั้นมีเพียงร้านอาหารเล็กๆในย่านอิแทวอนเท่านั้น แต่เขากลับอยากต่อสู้และเติบโตขึ้นมาเทียบเท่าจางกาให้ได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาซีรีส์แนววัยรุ่นสร้างตัว มิตรภาพระหว่างเพื่อน และต้องการปลุกความฮึกเหิมในการวิ่งตามความฝันให้ตัวเอง คุณน่าจะลองชมซีรีส์เรื่องนี้ดูนะ และนี่คือ 8 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดชมซีรีส์เรื่อง Itaewon Class
1. พัคซอจุน (Park Seojun)
ถ้าคุณชอบพัคซอจุนอยู่แล้ว คุณจะตกหลุมรักเขาในบทของพัคแซรอยมากขึ้นไปอีก เรื่องนี้เขารับบทเป็นหนุ่มหน้านิ่ง พูดน้อย ต่อยหนัก มีทั้งออร่าแบดบอยและผู้ชายนุ่มนวลในตัว เป็นผู้ชายในแบบที่อยากได้มาไว้ปกป้องตัวเราเอง ในขณะเดียวกันเราก็อยากปกป้องเขาด้วย
2. คิมดามี (Kim Dami)
คิมดามีเหมาะกับบทผู้หญิงขวางโลกที่เก่งและฉลาดแบบนี้มาก เธอดูเท่สุดๆในเรื่องนี้ และความตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองจะทำให้คุณหลงรักเธอ
3. ชีวิตมีโอกาสเริ่มต้นใหม่เสมอ
ด้วยความที่เป็นซีรีส์สะท้อนการใช้ชีวิตของคนที่เคยหลงผิด หรือผิดพลาดในอดีต ทำให้เนื้อเรื่องถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครที่อาจเคยสิ้นหวังจนคิดว่าไม่สามารถใช้ชีวิตให้ดีกว่าในอดีต และปัจจุบันได้อีกแล้ว แต่ซีรีส์จะบอกกับคุณเองว่า โลกนี้มีพื้นที่ให้คุณได้เบ่งบานอยู่เสมอ เพียงแค่เฝ้ารอเวลาและรู้จักให้โอกาสตัวเอง
4. ความฝัน ซักวันจะต้องสำเร็จ
พัคแซรอยเป็นตัวละครที่จะทำให้คุณทึ่งกับการวางแผนชีวิตของเขา เขาให้เวลากับการใช้ชีวิต ไม่รีบเร่งโดยเอาตัวเองไปยึดติดกับมาตรฐานของคนอื่นหรือสังคม แต่ประเมินจากความสามารถที่เขาจะทำได้ และนั่นคือเสน่ห์ของตัวละครแซรอย เขามีความฝัน มีเป้าหมายชัดเจน และลงมือทำอย่างไม่รีบร้อน ฉากที่เขากำหนดระยะเวลาในการตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง อย่างเช่นเขาบอกว่าอยากเปิดร้านในอีก 7 ปี แล้วเขาก็ทำได้จริงหลังจากนั้น เป็นอะไรที่เท่มากเลยนะ
5. เพลงประกอบซีรีส์
เสน่ห์ของซีรีส์เกาหลีอีกอย่างหนึ่งคงหนีไม่พ้นเพลงประกอบซีรีส์ ที่เรื่องนี้ก็มีเพลงเพราะหลายเพลงเลยทีเดียว อย่างเช่นเพลง Still Fighting It เป็นเพลงที่ให้ความหวังว่าพรุ่งนี้ของคุณจะดีขึ้น หรือจะเป็นเพลง You Make Me Back ก็น่าฟังไม่แพ้กันเลย
6. ชีวิต
คนเราต่างใช้ชีวิตในทิศทางของตัวเอง แต่คุณแน่ใจแล้วหรือว่าตอนนี้คุณกำลังใช้ชีวิต หรือแค่ยังคงอยู่? ซีรีส์บอกว่าชีวิตคือการเลือก มันทำให้ผู้ชมคิดว่าตอนนี้เราเลือกตัวเลือกถูกต้องแล้วหรือยัง?
7. ไม่ใช่ซีรีส์ที่คุณคุ้นเคย
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้พูดเรื่องความรัก หรือความฝันของคนบางคน แต่เล่าเรื่องของสิ่งที่เกิดในชีวิตของคนบางคน ซีรีส์ไม่ได้ถ่ายทอดความเศร้าหรือการอยู่เพื่อแก้แค้น เพราะพัคแซรอยไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่แบบผู้พ่ายแพ้หรือผู้ถูกกระทำ ถึงแม้เขาจะล้มกี่ครั้งกี่หน เขาก็ยังลุกขึ้นได้เสมอ ซีรีส์เหมือนเป็นการเล่าเรื่องของคนธรรมดา แต่คาแรกเตอร์ไม่ธรรมดาอย่างพัคแซรอย ตัวละครเหมือนพัคแซรอยเหมือนถูกสร้างออกมาสะท้อนตัวตนของมนุษย์ในอุดมคติที่หลายคนอยากเป็น อยากซื่อสัตย์กับตัวเอง อยากเดินบนเส้นทางที่ตัวเองเลือก แต่ในโลกแห่งความจริงเราหลายคนกลับทำแบบนั้นไม่ได้ พัคแซรอยกำลังบอกผู้ชมว่า เราทำได้ เราสามารถยึดมั่นใจสิ่งที่เราอยากทำได้ เพียงแต่เราอาจจะต้องเจอกับความล้มเหลว และใช้เวลายาวนานในการประสบความสำเร็จ…มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกใช้ชีวิตแบบไหนเท่านั้นเอง
8. ผู้คน
ซีรีส์เรื่องนี้หยิบยกประเด็นของผู้คนในสังคมที่มีปัญหาของตัวเอง ทั้งการยอมรับกลุ่ม LGBT, เด็กสาวที่แสนฉลาดแต่ไม่น่าคบหา หรือปัญหาคนรวยใช้เงินและอำนาจกดขี่คนจน หยิบยกเรื่องพวกนี้ขึ้นมาถ่ายทอดเมื่อไหร่ ก็ทำให้คนสนใจมากขึ้น เพราะมันคือปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคม
ที่มา https://annyeongoppa.com
แปลโดย http://popcornfor2.com