อีซึงกิ และ ซูจี พูดถึงความกดดันที่ได้แสดงในซีรีส์ทุนสร้างกว่า 25 พันล้านวอน
2019-09-17 18:41:05
Advertisement
Pyramid Game

 

ซีรีส์เรื่อง Vagabond ได้ถ่ายทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากใช้เวลาถ่ายทำไปทั้งสิ้นประมาณ 1 ปี ด้วยทุนสร้าง 25 พันล้านวอน (ประมาณ 64 ล้านบาท) 

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 กันยายน ได้มีการจัดงานแถลงข่าวซีรีส์เรื่อง Vagabond ซีรีส์ประจำวัน ศุกร์ - เสาร์ เรื่องใหม่ของ SBS ซึ่งได้จัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ช่อง SBS กรุงโซล นักแสดงในซีรีส์ได้แก่ อีซึงกิ (Lee Seung Gi), ซูจี (Suzy), ชินซองรก (Shin Sung Rok), มุนจองฮี (Moon Jung Hee), ฮวังโบรา (Hwang Bora) และ ผู้กำกับ ยูอินซิก (Yoo In Sik) ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

Vagabond จะดำเนินเรื่องโดยการนำตัวละครหลักไปค้นพบกับความลับระดับชาติ หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกปริศนา นี่คือเรื่องราวของเหล่าคนที่สูญเสียครอบครัว รวมถึงชื่อของเขา เป็นได้แค่บุคคลพเนจรไร้ตัวตน 

อีซึงกิได้เล่าถึงเหตุผลที่รับแสดงเรื่องนี้ว่า “หลังจากที่ได้ถ่ายทำมาตลอด 1 ปี ตอนนี้ผมรู้สึกกังวลและตื่นเต้นเพราะซีรีส์กำลังจะออกอากาศแล้ว ตั้งแต่ช่วงก่อนปลดประจำการ ผมได้ไปกินข้าวกับผู้กำกับและช่างภาพในกองถ่าย พวกเขากำลังคุยกันถึงซีรีส์เรื่องนี้ ตอนนั้นผมสนใจมาก และตัดสินใจจะร่วมงานกับพวกเขา ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาทำงานในโปรเจคใหญ่แบบนี้”

ทางฝั่งซูจี หลังจากที่หมดสัญญากับ JYP เธอได้เซ็นสัญญากับบริษัท Soop Management ระหว่างถ่ายทำเรื่อง Vagabond ซูจีบอกว่า “ฉันเลือกงานนี้เพราะว่าฉันรู้สึกชอบบทของ แฮรี  มาก และอยากเรียนรู้จากผู้กำกับ ยูอินซิก ขณะที่ถ่ายทำซีรีส์ ฉันว่าฉันได้เรียนรู้มากมายหลังจากมีโอกาสได้ทำงานกับรุ่นพี่นักแสดง ดังเช่นการเติบโตของแฮรี ฉันหวังว่าฉันจะได้โชว์ความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในซีรีส์เรื่องนี้ มันมีช่วงเวลาที่สับสนนิดหน่อย เพราะฉันเปลี่ยนต้นสังกัดระหว่างถ่ายทำ แต่ด้วยการถ่ายทำที่ใช้เวลานาน ทำให้เรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ ฉันจะทำสุดความสามารถ เพื่อแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น หลังจากที่ฉันตัดสินใจออกจากต้นสังกัดเดิม หวังว่าทุกคนจะรอชมนะคะ”

Vagabond เป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ ที่ใช้เวลาถ่ายทำมากกว่า 1 ปี และถ่ายทำในต่างประเทศทั้ง โมร็อกโก และ โปรตุเกส แค่ได้รู้ทุนสร้างซีรีส์เรื่องนี้ที่สูงถึง 25 พันล้านวอน (ประมาณ 64 ล้านบาท) ก็เรียกความสนใจจากผู้ชมได้มากมายแล้ว

เมื่อถามถึงความกดดันในการทำงานกับซีรีส์เรื่องนี้ อีซึงกิบอกว่า “ผู้กำกับและทีมงานเตรียมตัวสำหรับการถ่ายทำได้สมบูรณ์แบบ ผมเลยไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรในกองถ่าย ต้องขอบคุณผู้กำกับที่ทำให้เราได้สัมผัสความตื่นเต้นที่ไม่สามารถจินตนาการได้ กระบวนการถ่ายทำนั้นน่าสนใจมากกว่าบทละครเสียอีก อย่างที่บอกครับว่าผมทำงานโดยไม่มีแรงกดดันเลย ผมแค่ทำงานและถ่ายทอดตัวละคร ชาดัลกอน ออกมาให้คงเส้นคงวามากที่สุด เพื่อที่การถ่ายทำจะเป็นไปอย่างรื่นไหล”

ส่วนซูจีบอกว่า “ฉันว่าฉันน่าจะมีความกดดันอยู่ในทุกงานที่ฉันทำค่ะ แต่ฉันคิดว่าเพราะฉันมีความรู้สึกนี้ ฉันเลยถ่ายทำเรื่องนี้มาได้ตลอด 1 ปี เหมือนเป็นความรู้สึกเดียวกันกับทีมงานที่ได้ร่วมงานในโปรเจคนี้ค่ะ”

อีซึงกิ จะรับบทเป็น ชาดัลกอน สตั้นท์แมนหนุ่มที่มีความฝันจะได้ทำงานในภาพยนตร์แอคชั่นระดับโลก ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปหลังจากสูญเสียหลานของตัวเองในเหตุการณ์เครื่องบินตก ตั้งแต่ตอนนั้นเขาใช้ชีวิตด้วยความมุ่งมั่นว่าจะเปิดเผยเบื้องหลังแสนเน่าเฟะของประเทศที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น ส่วนซูจี รับบทเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง โกแฮรี ซึ่งแฝงตัวไปเป็นพนักงานของสถานทูตเกาหลีในโมร็อกโค ฉากแอคชั่นในเรื่องนี้ต้องออกมาดีอย่างแน่นอน เพราะนักแสดงทั้ง 2 คนได้เข้าเรียนโรงเรียนสอนฉากบู๊ 2-3 เดือนก่อนถ่ายทำ

อีซึงกิเล่าว่า “ซีรีส์เรื่องนี้เป็นแนวแอคชั่น นักแสดงในเรื่องได้ไปเรียนรู้ฉากแอคชั่นที่โรงเรียนด้วยกันก่อนถ่ายทำ 2-3 เดือน เพราะว่าเรามีฉากแอคชั่นใหญ่ในซีรีส์เยอะ อย่างพวกฉากบู๊บนรถ ตลอด 16 ตอนของซีรีส์ ผมรู้สึกว่าประสบการณ์ในกองทัพของผมเป็นประโยชน์ต่อการถ่ายทำเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ถึงผมจะปลดประจำการมานานแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าร่วมกองทัพ และผมรักกองทัพเกาหลีมาก ถ้าคุณกำลังอยู่ในกองทัพตอนนี้ ผมอยากบอกว่าคุณจะพอใจกับกองทัพและความแข็งแรงสมชายที่กองทัพหล่อหลอมคุณ ผมเรียนรู้จากที่นั่น อย่างการยิงปืน ผมก็ทำได้ง่ายๆ เพราะว่ามีประสบการณ์จากกองทัพ”

Vagabond มีฉากถ่ายทำในโมร็อกโค อีซึงกิพูดถึงสถานที่ถ่ายทำว่า “ฉากในซีรีส์แทบจะเป็นสถานที่เดียวกันทั้งหมด เหมือนฉากที่ใช้ถ่ายหนังเลยครับ เป็นสถานที่ที่หนังฮอลลีวูดใช้ถ่ายทำ คนที่นั่นเลยไม่ได้คาดหวังอะไรกับพวกเรา แต่พอได้เห็นคุณภาพการถ่ายทำ, วิธีการถ่ายทำ ซึ่งไม่ได้ด้อยกว่าเลย พวกเขาก็ตกใจครับ ช่วงถ่ายทำตอนกลางคืนในโมร็อกโค แฟนคลับมาที่กองถ่ายและซื้อขนมมาให้ ผมภูมิใจนะครับ เพราะว่าขนาดนักแสดงดังของฮอลลีวูดอย่าง Matt Damon ยังไม่ได้รับการดูแลจากแฟนคลับขนาดนี้เลย นี่ยิ่งทำให้พวกเขาสงสัยมากขึ้นไปอีกว่าพวกเราเป็นใคร งานที่ไปถ่ายทำที่โมร็อกโกมีงานที่คุณภาพดีแทบจะนับนิ้วได้ เพราะฉะนั้นพอเราได้รับคำชม เราเลยรู้สึกมีความสุขมากครับ”

อีซึงกิบอกความแตกต่างของซีรีส์เรื่องนี้กับหนังแอคชั่นสายลับเรื่องอื่นว่า “หนังแอคชั่นถูกปล่อยออกมาหลายเรื่องเลยเมื่อไม่นานมานี้ แต่ส่วนใหญ่ตัวละครเอกมักจะเป็นสายลับที่ถูกฝึกฝนมาก่อน ไม่เหมือนซีรีส์ของเราที่พระเอกเริ่มต้นมาจากการเป็นคนธรรมดา ไม่ได้รับการฝึกพิเศษแต่อย่างใด เขาแค่พลิกผันมาใช้ชีวิตแบบนี้เพราะสูญเสียหลาน ผมเลยคุยกับผู้กำกับว่าเราไม่ควรทำฉากแอคชั่นของตัวละครนี้ให้ออกมาดูสมบูรณ์แบบเกินไป เราต้องมีการแสดงแอคชั่นแบบมีอารมณ์ความรู้สึกของคนธรรมดาร่วมด้วย ผมคิดว่านี่คือความแตกต่าง เราไม่ได้อ้างอิงถึงหนังแอคชั่นเรื่องอื่น แค่อยากให้มันมีเอกลักษณ์ของเราเอง”

อีซึงกิปิดท้ายว่า “ซีรีส์ของเราน่าสนใจมากนะครับ คุณจะไม่เบื่อเลยเวลาดูเรื่องนี้ คุณสามารถรับชมซีรีส์เรื่องนี้ได้ทาง Netflix เรารู้สึกดีมากที่ผู้ชมทั่วโลกจะได้ดูซีรีส์ผลงานของเกาหลี ซีรีส์ Vagabond ใกล้จะออกอากาศแล้ว และผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทราบความรู้สึกของผู้ชมที่มีต่อซีรีส์”

ซูจีได้ทำให้ผู้ชมอยากดูซีรีส์มากขั้นไปอีกเมื่อเธอบอกว่า “ทุกคน ขอบคุณนะคะที่รอซีรีส์เรื่องนี้มาอย่างยาวนาน ฉันรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันค่ะ ซีรีส์ของเราจะเต็มไปด้วยนักแสดงผู้เปี่ยมไปด้วยคาริสม่าและหลายฉากที่ควรค่าแก่การรับชม”

Vagabond จะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 20 กันยายน เวลา 22.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเกาหลี)

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X