ผู้เชี่ยวชาญตลาดหุ้นเตือนไอพีโอ'เฟซบุ๊ค'ราคาแพงไป มูลค่าสูงกว่ากำไรที่ทำได้ 99 เท่า

หลังจากเฟซบุ๊ค อิงค์ สื่อสังคมออนไลน์ ยื่นเรื่องต่อผู้ดูแลกฎระเบียบสหรัฐ เพื่อเสนอขายหุ้นบริษัทแก่ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) ด้วยการตั้งราคาไว้ระหว่าง 28-35 ดอลลาร์ต่อหุ้น และคาดว่าจะเปิดขายวันที่ 17 พ.ค. บรรดาผู้เชี่ยวชาญการออกไอพีโอ วิเคราะห์ว่า เฟซบุ๊คกำลังเดิมพันอนาคตการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการโน้มน้าวนักลงทุนยอมจ่ายซื้อไอพีโอมูลค่ารวมสูงกว่าผลกำไรเฟซบุ๊คทำได้จริง 99 เท่า และสูงกว่ากำไรของบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนีเอส แอนด์ พี 500 หลายเท่า

สัปดาห์หน้า ตัวแทนบริษัทเฟซบุ๊ค จะเริ่มพบปะกับกลุ่มนักลงทุน และกำหนดราคาไอพีโอเฟซบุ๊ควันที่ 17 พ.ค. พร้อมทั้งยื่นเรื่องต่อผู้ดูแลกฎระเบียบ โดยตัวแทนบริษัทระบุว่า ไอพีโอเฟซบุ๊คมีมูลค่าตามราคาตลาดมากถึง 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการตั้งราคาขาย 28-35 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่บลูมเบิร์กให้ข้อมูลว่า เฟซบุ๊ค มีแผนจะขายทั้งหมด 337.4 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายสูงสุด ทำให้มูลค่าไอพีโออยู่ที่ 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์ ช่วยให้บริษัท ขึ้นอันดับหนึ่งขายไอพีโอสูงสุดในธุรกิจไอที

จากสถิติของบลูมเบิร์ก หากขายไอพีโอที่ราคาสูงสุด จะทำให้การซื้อหุ้นเฟซบุ๊ค ต้องจ่ายแพงกว่าบริษัทอื่นส่วนใหญ่ ที่จดทะเบียนในดัชนีเอสแอนด์พี500 ยกเว้น อะเมซอน ดอท คอม อิงค์, ลูคาเดีย เนชั่นแนล คอร์ป และอีควิตี้ เรสซิเดนเทียล

นายฟรานซิส กาสกินส์ ประธานฝ่ายวิจัยของไอพีโอเดสก์ทอป ดอท คอม ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า นักลงทุนบางคนอาจจะซื้อหุ้นเฟซบุ๊ค ซึ่งจะทำให้เกิดแรงผลักดัน ที่มาพร้อมกับเงินให้เห็นในระยะแรก แต่ท้ายที่สุด อีกประมาณหนึ่งปี หรือนานกว่านั้น ราคาหุ้นก็จะปรับตัวลดลง และจะต้องปรับตัวลงไปอีก

บลูมเบิร์ก เคยสำรวจความเห็นนักลงทุนพบว่า 69% ของผู้ค้าและนักวิเคราะห์ ประมาณ 1,000 ราย มองว่า เฟซบุ๊คมีมูลค่าไม่ถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ตามที่ โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชื่อดังเคยประเมินไว้ แถมนักลงทุนกลุ่มตัวอย่างกว่าครึ่ง เห็นว่า การประเมินค่าเฟซบุ๊คสูง เป็นสัญญาณเริ่มต้นของฟองสบู่ไอทีรอบใหม่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.bangkokbiznews.com