|
มาดูการเปลี่ยนแปลงของผู้หญิงคนนี้ ที่ดื่มน้ำปริมาณ 3 ลิตรในทุกๆ วัน
นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยว ซาร่าห์ สมิธ (Sarah Smith) คุณแม่ลูกสองวัย 42 ปี ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เธอก็เป็นเหมือนกับคนธรรมดาทั่วๆ ไปเช่นเดียวกับคุณ และไม่ค่อยชอบดื่มน้ำมากเท่าไหร่นัก เหมือนกับที่ทุกๆ คนนั้นชอบทำกัน เธอกล่าวว่า “ฉันจะเริ่มต้นวันด้วยกานดื่มชาหนึ่งถ้วย ต่อจากนั้นก็อาจจะมีน้ำอีกแก้วในมื้อกลางวัน และอีกแก้วในมื้อเย็น นี่คือของเหลวที่เข้าสู่ร่างกายของฉันในเวลา 24 ชั่วโมง ฉันรู้สึกเหมือนว่าทานเข้าไปมาก แต่เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายค่ะ”
หลังจากที่เธอต้องทนทุกข์กับอาการปวดหัวและปัญหาการย่อยอาหารที่ไม่ดีของเธอ ทำให้เธอตัดสินใจเข้าพบกับนักประสาทวิทยาและนักโภชนาการ ทั้งสองบอกกับเธอว่าเธอควรจะดื่มน้ำให้ถึง 3 ลิตรต่อวัน เพื่อปรับปรุงสุขภาพร่างกายของเธอ
หลังจากที่ได้ยินเกี่ยวกับผลการสำรวจที่ประเทศอังกฤษพบว่า มีผู้หญิงอย่างน้อย 1 ใน 5 คน ที่อังกฤษ ดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยกว่าคำแนะนำต่อวัน เธอตัดสินใจที่จะเริ่มต้นทำการทดลองนี้ มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอได้ทำตามคำแนะนำในเวลา 1 เดือน?
สัปดาห์ที่ 1
จากภาพของซาร่าห์จะเห็นได้ว่าในขณะที่เริ่มต้นทำการทดลองนั้น ดูแล้วค่อนข้างน่าใจหาย ใบหน้าของเธอขาดทั้งความชุ่มชื้น มีรอยหมองคล้ำ ริ้วรอย ริมฝีปากแห้ง ฯลฯ
สัปดาห์ที่ 2
ซาร่าห์กล่าวว่า “มีการเปลี่ยนแปลงโทนสีผิวของฉันมากขึ้นค่ะ ฉันยังคงมีริ้วรอยใต้ตาของฉัน แต่ก็ดูน่ากลัวน้อยกว่าแต่ก่อนค่ะ”
สัปดาห์ที่ 3
“รอยคล้ำและริ้วรอยใต้ดวงตาของฉันได้จางหายไปค่ะ ผิวของฉันดูเต่งตึงและมีน้ำมีนวลขึ้นค่ะ เพื่อนของฉันที่เป็นนักบำบัดความงามกล่าวว่า เพราะน้ำจะมีส่วนช่วยให้เซลล์ผิวของฉันงอกขึ้นมาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
สิ่งที่ฉันสังเกตเห็นทำเอาฉันต้องขยี้ตาในตอนที่ตื่นนอนขึ้นมาค่ะ เมื่อก่อนนั้นผิวฉันดูแห้งตลอดการนอนหลับ แต่ในตอนนี้น้ำช่วยทำให้ผิวของฉันชุ่มชื้นมากขึ้นค่ะ"
สัปดาห์ที่ 4
หลังจากที่ผ่านสัปดาห์สุดท้ายของการทดลอง ซาร่าห์กล่าวว่า “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีความแตกต่างเกิดขึ้นบนใบหน้าของฉันค่ะ รอยคล้ำรอบดวงตาของฉันหายไป ผิวของฉันดูสดชื่นเหมือนกับผิวของเด็ก มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นในเวลาอันสั้นค่ะ”
“ฉันรู้สึกฟิต ผอม และมีสุขภาพที่ดี สามีของฉันและเพื่อนของฉันบอกว่า ฉันดูเด็กลงไปอีก 10 ปีเลยค่ะ คุณไม่คิดจะลองทำสิ่งนี้เพื่อผลลัทธ์ที่น่าทึ่งแบบฉันกันบ้างเหรอคะ?”
ภาพจาก http://www.universeofnature.com
แปลจาก http://www.universeofnature.com โดย http://www.popcornfor2.com